วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

Lesson 6

Recent Posts


Science Experiences Manangement for Early Childhood
Teacher  Jintana Suksamran

Friday,September 26,2557.
Time 13:00 to 16.40 pm.

ความรู้ที่ได้รับ (The knowledge gained )



ในวันนี้อาจารย์นำเสนอตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

อุปกรณ์
                         
                         1.กระดาษ A4
                         2.คลิปเสียบกระดาษ
                         3.กรรไกร

ขั้นตอนการทำ    


                         1.พับกระดาษ A4 ให้มีลักษณะยาวๆ
                         2.พับครึ่งกระดาษ
                         3.ใช้กรรไกรตัดให้ถึงกึ่งกลางแล้วนำคลิปเสียบกระดาษมาเสียบให้แน่น


สิ่งที่ได้รับจากการประดิษฐ์


      ทำให้ได้เรียนรู้ว่าเด็กจะเรียนรู้ได้เองและดีที่สุดต้องเกิดจากการที่เด็กได้เรียนรู้จากการลงมีกระทำ ปฏิบัติจริง ซึ่งเด็กจะเกิดการค้นพบด้วยตนเอง และนำผลงานของเพื่อนมาปรับใช้ให้เข้ากับผลงานตนเอง นอกจากนี้เด็กจะได้เรียนรู้ในเรื่องของแรงโน้มถ่วงของโลก ในวิชาวิทยาศาสตร์กับชีวิตประจำวันของเด็ก แรงโน้มถ่วงจะเกิดจากที่สูงสุดลงสู่พื้นทีต่ำสุด ตัวอย่างเช่น เมื่อเราโยนเทปกาว กับ กระดาษ ขึ้นสบนอากาศ เทปกาวที่มีขนาดหนักกว่าจะตกลงถึงพื้นเร็วกว่าดระดาษ เพราะเทปกาวมีน้ำหนักมากจึงตกลงเร็วกว่ากระดาษ กระดาษมีน้ำหนักเบาและมีปีกรับอากาศทำให้ตกถึงพื้นช้ากว่า ซึ่งเด็กจะได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันการลงมือกระทำด้วยตนเอง และนอกจากนี้ศิลปะสร้างสรรค์จะสามารถทำเป็นชิ้นงาน เรายังสามารถตกแต่งเพิ่มเติมทำให้เด็กได้เรียนรู้การสร้างสรรค์ผลงานของตนเองอีกด้วย


บทความที่เพื่อนมาเสนอในวันนี้

1.วิทยาศาสตร์ระดับปฐมวัย


ของ นางสาว มธุรินทร์ อ่อนพิมพ์   แหล่งที่มา

   การสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยเป็นการสอนข้อความรู้ซึ่งต่างจากการสอนให้รู้ข้อความรู้ตรงที่การสอนข้อความรู้ต้องการความสนใจ  การสังเกต  การจำ และการเรียกความจำจากความเข้าใจถ่ายโยงได้  ไม่ใช่การท่องจำซึ่งตรงกับการเรียนวิทยาศาสตร์ที่เป็นการเรียนรู้จากการให้คิดและมีเหตุผลเกิดการเข้าใจมโนทัศน์เชื่อสานข้อมูลประยุกต์และสรุปเป็นข้อความรู้ได้ด้วยตนเอง

2.วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยของ นางสาวจุฑามาศ เขตนิมิตรแหล่งที่มา

ประโยชน์ที่ได้รับจากกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย


  • ส่งเสริมการเห็นคุณค่าของตนเองและมีความกระตือรือร้น 
  • ส่งเสริมการทำงานรายบุคคลและการคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาของเด็ก
  • ยอมรับรูปแบบการเรียนรู้จากวัสดุอุปกรณ์ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่เป็นธรรมชาติ การรับรู้และความพยายามของเด็กหลายคนจากการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมีความสำคัญต่อการรับรู้ชีวิต เรียนรู้ภาษาจากประสบการณ์การทำกิจกรรมวิทยาศาสตร์
  • เพื่อเป็นการช่วยอธิบายความเข้าใจด้วยตัวเองของเด็ก
  • ดูแลเอาใจใส่ต่อพฤติกรรมของเด็กที่ปรากฎ เช่น การแสดงความกังวลใจ เด็กที่เกิดความเบื่อ
  • กิจกรรมการค้นพบช่วยให้ผู้เรียนสนใจใฝ่รู้ อยากสืบค้นต่อไป
  • ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพทางสติปัญญาของเด็กจากการเรียนรู้ที่เด็กได้สัมผัสกับวัสดุอุปกรณ์ ทำให้เด็กมีแรงจูงใจในการทำกิจกรรมที่มีความมากขึ้น

3.การจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัยของ นางสาวบุษราคัม สะรุโณ  แหล่งที่มา

  การพัฒนาแนวคิดทางวิทยาศาสตร์สามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งคำถาม การทดลอง การสังเกตและการหาข้อสรุปซึ่งเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์หรือวิธีการแก้ปัญหา ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ระดับปฐมวัย ควรให้เด็กได้ตระหนักถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้ต่อไป
1.เราต้องการค้นหาอะไร 
         2.เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อการค้นหานี้ 
3.เราเห็นอะไรเกิดขึ้นบ้าง 
       4.สิ่งต่างๆเหล่านี้บอกอะไรแก่เราบ้าง

4.เรื่องอากาศของ น.ส. พรวลัญช์ คงสัตย์  แหล่งที่มา

เด็กได้รับการพัฒนาเจคติ มีความสนใจ กระตือรืร้นเกี่ยวกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบตัว ได้เรียนรู้เรื่องอากาศ เพื่อพัฒนนาความคิดจากทักษะกระบวนการคิดทางวิทยาศาสตร์เด็กได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องอากาศ ซึ่งเป็นธรรมชาติที่จำเป็นต่อชีวิตจากประสบการณ์ตรง


5.เรื่องฝึกทักษะการสังเกต ของ นางสาวเนตรนภา ไชยแดง แหล่งที่มา

เกิดจากการที่เด็กได้ฝึกการทำงานของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ตา หู จมูก ลิ้น ผิวหนัง ซึ่งเด็กจะได้เรียนเรียนรู้จาการเล่นและการทำกิจกรรมต่างๆไปพร้อมๆกัน ทั้งนี้เด็กจะได้พัฒนาการทั้ง 4 ด้านอย่างครบถ้วน คือ พัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการด้านอารมณ์ พัมนาการด้านสังคม และพัฒนาการด้านสติปัญญา

นอกจากนี้อาจารย์ได้นำนำเสนอ หน่วยการเรียนรู้ที่แต่ละกลุ่มนำมาส่ง ได้แก่ หน่วยกบ หน่วยแปรงสีฟัน หน่วยดอกมะลิ หน่วยไก่ หน่วยส้ม หน่วยกะหล่ำปลี หน่วยปลา หน่วยกล้วย หน่วยผีเสืื้อ


หน่วยกบ 





หน่วยแปรงสีฟัน





หน่วยดอกมะลิ




หน่วยไก่



หน่วยส้ม



หน่วยกะหล่ำปลี



หน่วยผีเสื้อ




สิ่งที่จะนำไปพัฒนา (What will be further developed)

     จากการเรียนวิทศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยในวันนี้ ในเรื่องของการประดิษฐ์สื่อการเรียนของเด็ก การจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับวิทยาศาสตร์ การสอนเด็กในหน่วยต่างๆ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์และปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงและยังสามารถส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กในด้านต่างๆทำให้เด็กได้เรียนรู้ได้พัฒนาตนเอง แต่การพัฒนาของเด็กจะสมบูรณ์ต้องพัฒนาที่ตัวครูผู้ถ่ายทอดความให้เด็กก่อนครู้ต้องมีความเป็นผู้นำ และสามารถปรับเทคนิคการสอนที่หลากหลายให้แก่เด็กได้ และเป็นแแบบอย่างที่ดีดีให้แก่เด็ก


ประเมินผล (Evaluation)

ประเมินตนเอง  : มาเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังอาจารย์นำเสนอสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ที่อาจารย์เตรียมและออกไปนำเสนอหน้าชั้นเรียนด้วยความตั้งใจ ตอบคำถามที่อาจารย์ถาม ตั้งใจฟังอาจารย์บอกเทคนิควิธีการต่างที่สามารถนำไปปรับใช้กับเด็กได้

ประเมินเพื่อน : เพื่อนทุกคนมีความสนุกสนานและช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีในการทำกิจกรรมประดิษฐ์ เพื่อนบางคนทำไม่ได้เพื่อนคนข้างๆก็จะช่วยสอน และช่วยกันตอบคำถามจากครู

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์นำเสนอเทคนิคต่างๆในการทำผลงานได้อย่างน่าสนใน มีการสอนการทำแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดเปิดโอกาสให้นักศึกษาทุกคนได้แสดงออก และบอกบอกนิคข้อผิดพลาดของแต่ละคนเพื่อนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น 


















วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2557

ความลับของแสง




จากที่ได้ดู VDO เรื่อง คลามลับของเเสง 

ตัวละครในเรื่อง  1.น้าเทลี่     2.หมีจ๋า

ความรู้ที่ได้รับ (The knowledge gained )



ความหมายของแสง และความสำคัญของแสง (Meaning)


    แสงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัว แต่เมื่อเราปิดไฟแล้วอยู่ในที่มืดสักพักหลังจากนั้นเปิดไฟให้สว่าง เมื่อเรามองสิ่งต่างๆรอบตัวจะทำให้เราแสบตา เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงของปริมาณแสงเร็วเกินไป ตายังปรับแสงไม่ทันจึงทำให้แสบตา 

   ทดการทดลองของวัตถุผ่านแสง  นำกล่องมาเจาะรู 1 รู แลวนำสิ่งของใส่ลงไปในกล่องจากนั้นปิดฝาให้สนิท ทำให้เรามองไม่เห็นอะไรเลย แต่ถ้าเราเปิดฝากล่องทำให้เรามองเห็น จากนั้นเจาะรูเพิ่มที่กล่องอีก 1 รู นำไฟฉายมาส่อง ทำให้เรามองเห็นสิ่งของภายในได้ เพราะแสงส่องลงมาถูสิ่งของต่างๆบนโลกแล้วสะท้อนแสงจากวัตถุนั้นเข้ามาสู่ตาของเรา ซึ่งเท่ากับว่าตาของเราคือจอสำหรับรับแสงที่สะท้อนเข้ามาจากวัตถุนั้นนั้นเอง

  

คุณสมบัติของแสง (Attribute)

แสงที่มากระทบสิ่งของบนโลกมีลักษณะต่างกัน 3 แบบ
1.วัตถุโปร่งแสง
2.วัตถุโปร่งใส
**2 แบบแรกมีคุณสมบัติที่คล้ายกัน คือแสงจะทะลุผ่านไปได้ และบางส่วนก็จะสะท้อนมาที่ตาของเราได้ ทำให้เรามองเห็นวัตถุนั้นได้ แต่จะต่างกันตรงที่แสงจะผ่านได้มากหรือน้อย**

3.วัตถุทึบแสง   วัตถุจะกลืนแสงไว้ แล้วสะท้อนแสงส่วนที่เหลือเข้าสู่ตาเรา เช่น ไม้  หิน   เหล็ก  หรือแม้กระทั้งตัวเราเอง

ทดลองการเดินทางของแสง   เริ่มจากหากระดาษแข็งสีดำที่มีขนาดเท่ากัน 2 แผ่น แล้วเจาะรูตรงกลางของแผ่นกระดานทั้งสอง จากนั้นเปิดหลอดไฟทิ้งไว้ในห้องมืด นำกระดาษแข็งที่เตรียมไว้แผ่นแรกมาวางขั้นระหว่างหลอดไฟ กับ ผนังห้อง แสงไม่สาสมารถส่องผ่านทะลุกระดาษออกมาได้แต่ตรงรูที่เราเจาะไว้เท่านั้นที่มีลำแสงเล็กๆพุ่งผ่านออกมาได้ จากนั้นนำกระดาษอีกแผ่นมาวางซ้อนไว้ข้างหน้ากระดาษแผ่นแรกโดยให้รูที่เจาะอยู่ตรงกัน จะเห็นว่าแสงแสงก็ยังพุ่งผ่านกระดาษที่เราเจาะไว้ที่เดิม แสดงว่าแสงพุ่งออกมาเป็นเส้นตรง แต่ถ้าเราลองขยับกระดาษออกไปให้รูที่เจาะไม่ตรงกัน แสงจะไปหยุดอยู่แค่บนกระดาษแผ่นที่ 2 เปลี่ยนทิศทางไปหารูที่เราเจาะไว้ แสดงว่าแสงต้องเดินทางออกมาเป็นเส้นตรงอย่างเดียวและไม่มีการเปลี่ยนทิศทาง



ประโยชน์ของแสง(Usage)



1.ทำให้เรามองเห็นสิ่งต่างๆรอบตัว

2.นำมาทำกล้องฉายภาพแบบต่างๆ  
**ดวงตาของเรามีรูเล็กๆ เราเรียกว่า รูรับแสง ภาพที่ผ่านรูรับแสงจะเป็นภาพกลับหัว แต่ที่เรามองเห็นภาพสิ่งต่างๆไม่กลับหัวนั้น เพราะสมองของเราจะกลับภาพให้เป็นปกติโดยอัตโนมัติ แสงจะตกมาในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับที่ฉายแสงเสมอ เพราะลำแสงกับพื้นผิวที่สัมผัสเป็นมุมที่เท่าเทียมกันกับลำแสงที่ตกกระทบเสมอ

3.นำมาผลิตเลนส์ในแบบต่างๆ
**รุ้งกินน้ำเกิดในทิศทางตรงกันข้ามของดวงอาทิตย์ ในเวลาหลังฝนตกใหม่ๆ และเกิดการหักเหของแสงผ่านละอองนำ้ในอากาศ

4.นำมาผลิตพลังงานที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์

5.นำมาใช้ในการผลิตของโรงงานอุตส่าหกรรมทุกชนิด

6.อำนวยความสะดวกทุกอย่างให้กับการดำรงชีวิต











วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

Lesson 5

Recent Posts


Science Experiences Manangement for Early Childhood
Teacher  Jintana Suksamran

Friday,September 19,2557.
Time 13:00 to 16.40 pm.





    วันนี้อาจารย์ให้ประดิษฐ์สื่อที่ประกอบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ซึ่งอาจารย์เตรียมอุปกรณ์มาให้


อุปกรณ์  1.กระดาษA4
                              2.ไม้เสียบลูกชิ้น
                              3.สี
                              4.กรรไกร
                              5.กาว

ขั้นตอนการทำ  1.แบ่งกระดาษ 1 แผ่นให้เป็น 4 ส่วน 
                                         2.แบ่งกระดาษจากที่แบ่งเป็นส่วนๆให้เพื่อน
                                         3.วาดรูปที่สัมพันธ์กันในแต่ละด้าน
                                      4.นำไม้เสียบลูกชิ้นทากาวแล้วติดลงบนกระดาษให้แน่นจนหมุนไม้แล้วกระดาษไม่ หลุดออก

สรุปกิจกรรมการประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ 

   สิ่งประดิษฐ์ที่ดีสามารถสามารถใช้กับเด็กปฐมวัยได้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อเด็กอุปกรณ์สามารถหาได้ตามธรรมชาติ หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวแล้วนำมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการเรียนรู้ที่ไม่ใช้ค่าใช้จ่ายสูง ส่วนขั้นตอนการทำต้องง่ายๆวิธีการไม่ซับซ้อนซึ่งเด็กสามารถเรียนรู้เองได้ และครูต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้คิด ได้เรียนรู้ด้วยตนเองครูจะไม่บอกเด็กก่อนเพราะจะทำให้เด็กไม่ได้คิดไม่ใช้สมองในการทำงาน แต่ครูสามารถบอกเด็กได้ก็ต่อเมื่อเด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองแล้วครูจึงเป็นส่วนที่สรุปความคิดความเข้าใจของเด็ก ซึ่งจะทำให้เด็กได้ใช้สมอง ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และเรียนรู้กระบวนการได้ดีด้วยตนเอง





เนื้อหา (The content) ที่เรียนในวันนี้จากที่อาจารย์ได้นำเสนอ powerpoint




สิ่งที่จะนำไปพัฒนา (What will be further developed)

      จะนำเทคนิคต่างๆที่อาจารย์ในวันนี้ เช่น เทคนิคการประดิษฐ์สื่อที่ใช้ในการเรียนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ไปปรับใช้ในการประดิษฐ์อุปกรณ์สำหรับเด็กปฐมวัยในอนาคตและพัฒนาในเรื่องของเทคนิคการประดิษฐ์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมโดยนำความรู้เดิมไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ประเมินผล (Evaluation)


ประเมินตนเอง   ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายงานและสนใจสิ่งประดิษฐ์ที่อาจารย์มานำเสนอพร้อมทั้งตั้งใจประดิษฐ์ชิ้นงานด้วยตนเอง และร่วมตอบคำถามที่อาจารย์ถามในชั้นเรียนอย่างตั้งใจ


ประเมินเพื่อน    วันนี้เพื่อนมีดูมีความสนุกสนานและกระตือรือร้นในการทำผลงานของตนเองอย่างตั้งใจ และให้ความช่วยซึ่งกันและกันในการใช้อุปกรณ์ในการทำการประดิษฐ์ และร่วมกันทำกิจกรรมอย่างตั้งใจ


ประเมินอาจารย์   อาจารย์มีเทคนิคในการประดิษฐ์ผลงานทางวิทยาศาสตร์อย่างน่าสนใจ มีความสวยงาม นอกจากนี้อาจารย์ยังได้บอกเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีว่าควรมีขั้นตอนที่งานๆไม่ซับซ้อนเด็กสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และอาจารย์ได้มีการสรุปเนื้อหาที่เรียนให้เข้าใจงานขึ้นและน่าสนใจสามารถจำได้ง่ายไม่ซับซ้อน